คนจีนโบราณอธิบายว่า การที่ค้างคาวต้องนอนห้อยหัวเพราะมันสมองของมันหนักมากแต่
นักวิชาการปัจจุบันบอกว่า
เป็นเพราะขาของค้างคาวไม่แข็งแรงพอที่จะทรงตัวอยู่ได้ เวลานอนมันจึงต้องยึด
อุ้งตีนไว้กับต้นไม้หรือแง่งหินแล้วห้อยหัวลง เพื่อถ่ายน้ำหนักจากตีนสู่หัว แม้แต่เวลาที่ค้างคาวอยากจะเคลื่อนที่ไปไหน ๆ (โดยไม่บิน)
มันก็ไม่สามารถเดินได้เพราะมีกระดูกขาที่แสนผอม
มันจึงใช้ปีกตะกายไปกับพื้น โดยหลีกเลี่ยมิให้กดน้ำหนักลงไปที่ขาของมันและ
น่าทึ่งที่ค้างคาวสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว
ในบรรดาสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 4,300 ชนิด
มีก็แต่ค้างคาวเท่านั้นที่บินได้ ค้างคาวใช้เวลานานมากกว่าจะวิวัฒนาการร่าง
กายให้เหมาะแก่การบิน อย่างหนึ่งก็คือการรีดน้ำหนักขา จนมันสามารถใช้ขาสอง
ข้างทำหน้าที่คล้ายหางช่วยพยุงตัวให้บินไปในทิศทางที่ต้องการได้ แต่ผลของ
วิวัฒนาการนี้ก็ทำให้ขาของมันอ่อนแอจนไม่สามารถทรงตัวได้ในที่สุด